ชีพจรลงเท้า ลุยป่าหน้าฝน @ โกรกอีดก สระบุรี <หน่วยพิทักษ์ ขญ. 18 (เจ็ดคต) อทย. เขาใหญ่

07:00 - 08:15 เดินทางไปยัง หน่วยพิทักษ์ ขญ18  ( หนองแค > สระบุรีเลี้ยวขวา > U-Turn ที่หน้า เทศบาล ทับกวาง >ขญ18) หลังจากถึงสระบุรีเลี้ยวขวาแล้วก็ขับไปเรื่อยๆประมาณ 20 Km และกลับรถที่หน้าเทศบาลทับกวาง

ถ้าเลยจุดกลับรถนี้ ก็ขับต่อไปอีกซัก โล สองโล สามโล สีโล จนกว่าจะเจอจุด U-Turn คับ 
*ระหว่างทางก็ขับรถดูซ้ายดูขวาหาป้ายให้ดีครับ  จังหวะนี้มีเพื่อนใช้เพื่อน มีแฟนใช้แฟนครับ ใช้งานให้เป็นประโยชน์*

หลังจาก U-Turn แล้วก็ขับมาอีกประมาณ 2 Km เลี้ยวซ้ายตามป้ายบอกทางไปเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า จุดสังเกต ใต้สะพานลอย

ขับตรงไปตามทางยาวๆ ไม่ต้องเลี้ยวซ้าย ไม่ต้องเลี้ยวขวา  ประมาณ 15 กิโล จะเจอ3แยกเข้าโป่งก้อนเส้า ไม่ต้องเลี้ยว 

3แยกเข้าศูนย์ศึกษาธรรมชาติฯเจ็ด คด-โป่งก้อนเส้า

ขับตรงไปอีกประมาณ 4 กิโลก็จะถึง ขญ18 

ติดต่อเจ้าหน้าที่ จ่ายค่านำทาง แล้ว จนท จะพาไปจุด Start  จาก ขญ18 ไป จุดStart ขับรถไปอีกประมาณ 14Km ถนนจะเป็นดินลูกรัง สลับกับพื้นซีเมนต์ มีหลุมเป็นปะปลาย บางจุดก็เยอะและใหญ่เหมือนอยู่ดวงจันทร์ สำหรับเพื่อนๆที่เอารถ เก๋งหรือ รถแต่งเข้าไป คิดว่าไม่น่าจะขับไปได้ ทาง จนท จะมีรถให้บริการไปส่งที่จุด Start มีค่าใช้จ่ายราคาหลังไมค์ครับ 
09:10 ขับมาจนถึงสุดถนน ก็คือจุด Start ของเส้นทางขึ้น โกรกอีดกนี้หลัง จากเปลี่ยนรองเท้า ยัดข้าวยัดน้ำลงกระเป๋า พร้อมเรียบร้อย ก็เริ่มลุยกัน

เดี่ยวกลับมาต่อพรุ้งนี้ครับ คืนนี้ราตรีสวัสก่อนครับ เดี่ยวตื่นไปทำงานไม่รอดดดด ลากันที่รูป จุดStart เริ่มปุ๊บก็ลุยน้ำปั๊บ  จากภาพ ลำธารแรกน้ำประมาณเกือบเข่าครับ (อย่างที่บอกระดับน้ำประมาณ 5/10) ถ้า Full Option น้อง จนท. บอกว่า อก !!!  ( คิดดูนะน้องจนท สูงประมาณ 168  เอ่อ  ขอเงิบบบแปป  คือ เมิงเดินงัยวะ )

. . . . .ความเดิมจากตอนที่แล้ว. . . . .
หลังจาก จขกท หลับคาจุด Start ไปทั้งวัน . .. เอ้ย ไม่ใช่แระ หลังจากพวกเราเดินผ่านลำธารแรกกันมาอย่างยากลำบาก จนน้อง จนท. มองหน้าอีพวกนี้มันจะสำออยไปหาป้าแต้วที่ไหน นี้มันยังเดินไม่ถึง 100 m เลย จนต้องรีบทำเวลา  ผ่านจากลำธารแรกก็จะเข้าสู่ดงป่า Ohhhhhhh สัมผัส ดัมมะชาติแร้ววว 
 

เส้นทางในช่วงแรก  จะเป็นเส้นทางเดินค่อนข้างสบาย ทางเดินยังมีให้เห็นชัดเจน และจะค่อยๆเลือนลาง พวกเราเดินไปได้ 10 นาที ก็เจอนางรอง ของทริป นั้ น คื อ อ อ . . . . น้องเห็ด 
 

. . . .เห็ดแชมเปญ  (Fungi Cup)   ถือเป็นเห็ดที่เหล่าตากล้อง นักล่ามาโคร ตามล่าเสาะหาพลิกแผ่นดินกันทีเดียว . . . .
. . .ปีนึงจะขึ้นในช่วงหน้าฝนเท่านั้น (เอ๊ะ ! รึป่าว? ไม่แน่ใจ? เอาเป็นว่า สามารถพบได้มากในช่วงเดือน ก.ค. ถึง ต.ค.)  . . . 
 

นอกจากเส้นทางโกรกอีดกแล้ว ยังสามารถเจอได้ที่เส้นทางน้ำตกเจ็ดคตโป่งก้อนเส้า  น้ำตกเหวนรก และป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง. 
. . .แต่จากประสบการณ์ จขกท คิดว่าที่โกรกอีดก เนี้ยเยอะมาก หาง่าย มุมเยอะ ถ่ายจนขี้เกียดจะถ่าย  . . .
. . .พลาดอย่างเดียว จขกท ยังไม่มีเลนส์มาโคร   ร้องไห้หนักมาก เดว จขกท จะกลับมาอีกรอบกับ เลนส์ 3.11 . . .
 

นอกจากเห็ดแชมเปญแล้ว ก็ยังสามารถเจอเห็ดขน ขึ้นมากมาย หลายสีสัน ทั้งเล็กทั้งใหญ่ 
 

ถ้าเพื่อนๆไปหาที่อื่นแล้วไม่เจอหรือยังไม่สะใจ  มาตามล่าที่โกรกอีดกได้ครับ "โกรกอีดก เส้นทางสายเห็ด" หลังจากถ่ายรูปกับสิ่งเล็กๆที่เรียกว่าเห็ดจนเบื่อ พวกเราก็เดินทางกันต่อ ผ่านน้ำ ผ่านป่า ผ่านน้ำ  ผ่านป่า. รองเท้าที่ว่าแห้งแล้ว ก้อเปียกอีก  แห้ง เปียก เปียก แห้ง    จนคิด เท้ากรุจะเปื่อยมะเนี้ย 

 

. . ปีนก้อนหิน ไต่ลำธาร เดินบนหิน ล้มบ้าง สะดุดบ้างเป็นเรื่องปกติ . .
เป็นความสุข ความสนุก ความท้าทาย  ฝึกความอดทน ฝึกความลำบาก
 

บางทีก็ไม่เข้าใจ ทำไมตากล้องต้องอยุ่หลังขบวนตลอด . . เคยเป็นกันบ้างไหม?

10:15  เพื่อนสาวหันไปถามน้องนก จนท :  "ใกล้ถึงยังค๊ะ" 
น้องนก จนท. : "ยังไม่ถึงครึ่งทางเลย"  คงคิดในใจ เมิงเล่นหยุดถ่ายรูปซะอลังการ กล้าถามเน๊าะถึงครึ่งทางอะยัง!

. . . .แต่สุดท้ายพวกเราก็หยุดถ่ายรูปกันต่อ. . . .
 

  
. . .ต้นไทร ฉายา นักบุญแห่งป่า..นักฆ่าแห่งพงไพร. . .
หันไปดูนาฬิกา 10:30  อ๊ากกกกก  เดินไม่ถึงครึ่งทางซักที หลังจากถ่ายรูปกันจนอิ่มเอ่ม ก้อจ้ำเท้ากันอย่างไวเพื่อไปยังจุดนั่งพักครึ่งทางของโกรกอีดก < ลืมบอกครับ โดยทั่วไปคนส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการเดินไปและกลับประมาณ 8 ชม รวมเวลาถ่ายรูป กินข้าว>< แบ่งเป็นเดินไป 3.5-4ชั่วโมง , เดินกลับ 2 ชั่วโมง , ถ่ายรูป เล่นน้ำ กินข้าว 2-3 ชั่วโมง>
ต่อคับ  . . . เหยดดด ครึ่งทางแล้วซักที  น้ำตกโกรกอีดกชั้นที่ 1 พวกเราพักกินน้ำ + ถ่ายรูปกันแผปนึง . . .

บริเวณหินถ้านั่งก็ระวังนิดนึงนะครับ มันลื่น . . . เก๊กหล่อกันได้ แต่ระวังหน่อย. . .

หลังจากนั้นพวกเราก้อเดินทางกันต่อเพื่อไปยังน้ำตกชั้นที่ 2 ระหว่างทางตั้งแต่ชั้นที่ 1 - 6 จะเป็นทางไต่ระดับความสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ชันมาก ทางจะค่อนข้างลื่น โปรดเดินด้วยความระมัดระวัง รองเท้าใครกากไม่กาก ก็รู้กันตอนนี้แหละ

ชั้นที่ 1 กับ ชั้นที่ 2 ไม่ไกลกันมาก เดินๆไปเดี่ยวก็ถึง

ภาพเบลอนิดนึงครับ  ดูน้ำตกละกันเนาะครับ ไม่ต้องดูนายแบบ หุหุ. . .ในรูปต้องการจะสื่อว่า ระยะตั้งแต่ข้างหลังนายแบบ ถึงน้ำตก ความลึกระดับ อก !  (จนท. เขาบอกมา)ใครลงไปเล่นมาแล้วบอกด้วยนะครับ ลึกแค่ไหน? เพื่อเป็นความรู้แด่คนรุ่นหลัง หลังจากเชยชม น้ำตกชั้นที่ 2 กันเรียบร้อย เราก็เดินทางไปต่อเพื่อไปชั้นที่ 3 จากชั้น 2 ขึ้นไป จะมีขึ้นเขา + ลงเขานิดหน่อย 

สำหรับรองเท้าส่วมใส่  จนท. แนะนำว่าควรจะเป็นรองเท้าเดินป่าแบบลุยน้ำได้ คือมีช่องระบายน้ำ หรือไม่อย่างน้อยรองเท้าที่สวมใส่ควรใช้พื้นยางที่เป็นชนิดยางอ่อน เพื่อเหยียบหินแล้วไม่ลื่นมาก.....สำหรับ รองเท้า จนท นั้นพี่ท่านใส่ สตั้นดอย....

คืนนี้ลาด้วยภาพลำธาร ระหว่างน้ำตกชั้น3-5 พรุ้งนี้เดวมาต่อ คงถึงโกรกอีดกชั้น 7

. . .เดินจ้ำขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงชั้น5. .  ใช้เวลาไม่นานนัก 15 นาที . . .

. . . รองเท้าเจ้ากรรมที่ใส่มาก็เริ่มออกอาการกาก (วรนุชชเอ้ยยยยยย). . .

. . . .การเดินป่า-เดินเขาหน้าฝนนั้นมีข้อดี คือ เราจะได้เห็นความเขียวขจีของฝืนป่าและขุนเขา. . . .
. . . .และข้อดีของการเดินน้ำตกหน้าฝนก็คือ เราจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ. . . .
. . . . แน่นอนมีข้อดีก็ย่อมมีข้อเสีย   ทุกอย่างธรรมชาติสร้างมาไว้เป็นสองด้าน . . . .

ตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นมาเส้นทางจะเริ่มมีสิ่งกีดขวาง บางจุดต้องใช้มือช่วย 

. . . .ลองหันไปมองข้างหลัง  "โอ๊ะ ! กรุเดินข้ามมาได้ไงวะ" 

. . . .ถึงรองเท้าจะแพ้  แต่ใจไม่แพ้วุ้ยย (เหยียส เปรด เมื่อไรจะถึงน้ำตกฟ๊ะ) . . . .

. . . . . .จากชั้น 6 ขึ้นไปจะเริ่มเป็นทางชันขึ้นมากกว่าเดิม . . . . .
. . . .หากรู้สึกเหนื่อยก็นั่งพักซักแปปปป (คนแบกกระเป๋าอาจจะเริ่มรู้สึกว่า มาหนักอะไรตอนนี้ฟ๊ะ)  . . . .

***เอ่ออคือคุณเมิงนั่งแล้วขวางทางกรุจะเดินป๊ะ***

. . . . .แระแร้วก็เริ่มได้ยินเสียงน้ำตก ตูมมมมมมม (น้ำตกหรือระเบิดวะ) . . . . .

. . . . หันไปมองด้านหลัง แอบเห็นเขาลมพัด ที่ซึ่งเป็นเส้นทางเดินป่าอีกจุดหนึ่งของที่นี้ (เดินป่าระยะทางไกล) . . . . "เขาลมพัด" (จนท ขู่ว่า เป็นเส้นทางมาหาทาก) ปัจจุบันยังเป็นป่าปิด เพื่อนๆที่ต้องการไปต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางไปเท่านั้น และต้องนอนค้าง 1 คืน 

. . . . .แระแร้วก้อถึงโกรกอีดก แต่ก่อนจะถึงต้องไต่เชือกตรงนี้ก่อน ในช่วงที่ จขกท. เข้ามานั้นปริมาณน้ำยังไม่เยอะจนไหลมาถึงบริเวณนี้ . . . . ขนาดไม่มีน้ำก็ไต่ไปยากละ แล้วกล้องกรุจะไปยังไงเนี้ย . . .

. . . . .ในรูปอาจจะดูน่ากลัว แต่ของจริง น่ากลัวกว่านี้เย๊อะะะะ . . . . . .

- - - - - และแล้วววก็ถึงจุดกินข้าวเที่ยงของเราวันนี้แล้ววว - - - - - -

*** ใช้เวลาในการเดินขึ้นประมาณ 3 ชั่วโมง จากจุด Start ถึง จุดกินข้าวหน้าน้ำตก 09:11 - 12:15 *** *** พลังงานที่สูญเสีย ∞ Cal. ***  ว่าแล้วก็กินกันก่อนเลยละกัน หลังจากเพิ่มพลังเสร็จ ก็ถ่ายรูปนิดๆหน่อยๆ  (นิดๆหน่อยๆจริง ช่วงที่ไป จขกท โดน เจ้าที่เยอะมากกก  )

 

โกรกอีดก ไม่มีตัวคุ่น ไม่มีทาก มีแต่น้องผึ้ง !!  (โชคร้ายของ จขกท ที่เจอฝูงผึ้งป่าในช่วงที่ไป) เกี่ยวกับผึ้งป่าจะมีประสาทดมกลิ่นดีมากกก พอได้กลิ่นเหงื่อ มันจะบินมาอย่างว่องเพื่อดูดน้ำเกลือแร่ที่ออกมาจากรูขุมขน เพื่อนคนไหนเหงื่อไหลเยอะละก็ไม่พลาดโดนรุมตอม โดยส่วนมากมันจะไม่ต่อย มันจะดูด ดูด อย่างเดียว. เพื่อนๆสามารถหาเศษไม้มาก่อกองไฟก็เพื่อไล่ผึ้งได้ แต่ต้องคอยอย่าให้ฝืนหมด หมดเมื่อไรบินมาอีกแระ. โชคดีของ จขกท ที่น้อง จนท. คอยเติมฝืนไล่ผึ้งให้พวกเรา. *แต่มันก็เป็นหน้าที่ของเค๊าป๊ะ* แต่หากเพื่อนๆโดนตอมเยอะมากละก็แนะนำกระโดดลงน้ำเลย !! น้อง จนท. บอกปิดท้าย โชคร้ายปีนี้ผึ้งเยอะ  
. . พวกเราใช้เวลาประมาณ 1 ชัวโมง รีบกิน รีบถ่ายรูป แล้วก็เก็บข้าวเก็บของหเตรียมตัวหนีผึ้งลงจากน้ำตก อีกอย่างฟ้าฝนเริ่มตั้งเคร้าแล้ว . .

ลาด้วยภาพน้ำตก ด้วยเลนส์ 35mm ณ.บริเวณจุดกินข้าว 
*ด้วยจุดและตำแหน่งที่สามารถวางขาตั้งกล้องถ่ายน้ำตกได้นั้นค่อนข้างจำกัด*
* หากจะเก็บภาพให้หมด แนะนำควรพกเลนส์ระยะ 24 mm ลงไปมาด้วย* 

* * * * ขาลงพวกเราจ้ำเท้าลงอย่างไว ใช้เวลาประมาณ 2ชั่วโมงก็ถึงจุดจอดรถ * * * * *
 

 

ในช่วงลงเขาจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่าขาเดินขึ้น ซึ้งเป็นปกติของการขึ้นเขาทุกที่
 

บรรยากาศช่วงขาลง รูปเยอะหน่อยนะครับ บางจุดสำหรับสาวๆที่เพิ่งเดินป่าอาจจะต้องมี Trainer ประกบข้างเพื่อลากจูง หุหุ  (คนหรือช้างฟ๊ะเนี้ย) 

 

 

ณ จุดนี้ เรียกได้ว่าเกินขีดจำกัดของรองเท้า เป็นเท้ารองแล้ว 
 

หลังจากพวกเราเดินมาถึงจุด Start แล้วก็เปลี่ยนกางเกง เปลี่ยนรองเท้า บางคนอาจถึงซัดรองเท้าทิ้งเลย 555+(แถวนั้นมีถังขยะ ทิ้งให้ถูกทางด้วยนะครับ) สรุปโดยรวมทริปนี้เรียกได้ว่า สนุก ผจญภัย ฮาแตก และใช้เวลาแค่วันเดียว แถมยังใกล้กรุงด้วย

ค่าใช้จ่าย
1.ค่าอาหารเช้า+เที่ยง  
2.ค่าน้ำมัน   < 300 Bath
3.ค่าเจ้าหน้าที่  500 Bath
 

หลังจาก ส่งเจ้าหน้าที่ ณ ขญ.18 เรียบร้อย เพื่อนๆมีทางเลือก 2 ทาง คือ . . . . 
1. กลับบ้าน
2. พักผ่อน ณ. เจ็ดคต-โป่งก้อน
สำหรับพวกเรา เลือกข้อ <2> ไหนๆก็มาแล้ว อยู่กับธรรมชาติให้เต็มที่
 

 

ขอบคุณทุกท่านที่คอยติดตามครับ
ลาด้วยภาพ มหาเจดีย์ 500 ยอด ที่วัดป่าสว่างบุญในเช้าวันถัดไปครับ  
________________________________

ขอบคุณเรื่องเล่าสนุกๆ จากสมาชิกพันทิป สมาชิกหมายเลข 2399269

 

Tags: สระบุรี

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้